Posted in

บวงสรวงอนุสรณ์สถานช้างเผือก – ประเพณีท้องถิ่นออนใต้

ประเพณีบวงสรวงอนุสรณ์สถานช้างเผือก

ข้อมูลโดย กองการศึกษา เทศบาลตำบลออนใต้

ประวัติช้างเผือก จากคำบอกเล่าของนายศรี ปัญญาคง ซึ่งเป็นบุตรของนายแก้ว ปัญญาคง เจ้าของช้างเผือก เล่าว่าช้างเผือกมีแม่ ชื่อช้างแม่คำป้อ ซึ่งเป็นช้างที่พ่อแก้ว ปัญญาคง ซื้อจากพ่อน้อยจันตา พ่อค้าช้างชาวบ้านทุ่งขาม อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยเป็นช้างมาจากอำเภอพร้าว มาขายให้ เมื่อ พ.ศ.2505 ขณะนั้นช้างแม่คำป้อ อายุ 40 ปี หลังมาอยู่กับพ่อแก้ว ปัญญาคง ได้เลี้ยงไว้ในป่าแม่ผาแหนเพื่อใช้แรงงานทำงานลากซุง หลังจากนั้นได้ผสมพันธุ์กับช้างพลายบุญชู ตั้งท้องได้ประมาณ 3 ปี ถึงวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2508 ได้ตกลูกออกมาเป็นช้างเพศผู้ ณ บ้านพ่อแก้ว บ้านแม่ผาแหน ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนจะคลอดได้เกิดนิมิตหมายอันดี คือ มีพายุฝนฟ้าคะนองตลอดคืน จนกระทั่งเวลา 02.00 น. จึงได้คลอดลูกช้างออกมา รู้ไปถึงพ่อเลี้ยงบุญถึง เป็นคนบ้านแม่ปิน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนช้างของนายสิงห์ จอมใจป้อ ชาวบ้านแม่ผาแหน จึงได้ออกไปดูลูกช้างของพ่อแก้ว ปัญญาคง ซึ่งตกลูกเมื่อคืนที่ผ่านมา

เมื่อดูแล้วพบว่าลูกช้างมีลักษณะพิเศษหลายอย่างผิดกับลูกช้างธรรมดาทั่วไป เช่น ลำตัวมีผิวหนังสีแดงคล้ายกับหม้อน้ำใหม่ มีรูขุมขนเป็นเส้นขนาน คือ ใน 1 รูมีขน 2 เส้น มีเล็บข้างละ 5 เล็บ รวมทั้งหมด 20 เล็บ ฯลฯ ซึ่งช้างทั่วไปจะมีผิวหนังสีดำ มีขนเส้นเดียว และมีเล็บข้างละ 4 เล็บ รวมทั้งหมด 16 เล็บ พอเห็นดังนั้นพ่อเลี้ยงบุญถึง จึงแนะนำ พ่อแก้ว ปัญญาคง เจ้าของช้างให้ไปแจ้งต่อนายสวัสดิ์ วรพงษ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายอำเภอสันกำแพง ในขณะนั้น หลังได้ทราบข่าวจึงรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คือ พ.ต.อ.นิรันดร ชัยนาม และได้รายงานต่อสำนักพระราชวัง

หลังได้รับแจ้ง สำนักพระราชวังได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบลักษณะของลูกช้างโดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ปี จึงได้ลงความเห็นว่าลูกช้างเชือกนี้มีลักษณะตรงกับคชลักษณ์คู่บารมีของพระเจ้าแผ่นดิน พ่อแก้ว ปัญญาคง พร้อมบุตร-ธิดา จึงได้น้อมเกล้าถวายช้างเผือกแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โดยจัดพลับพลา ที่ประทับที่โรงบ่มใบยาแม่ผาแหน ณ วันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2509 เวลา 15.00 น.

สำนักพระราชวังได้รับถวายช้างเผือก พร้อมกับให้เจ้าของช้างนำช้างแม่คำป้อและลูกช้างเผือก เดินทางไปยังสวนสัตว์เชียงใหม่โดยการเดินเท้าในวันรุ่งขึ้น โดยเดินออกจากบ้านแม่ผาแหน วันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2509 ถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ วันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2509 รวมเวลา 6 วัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้ พักครั้งที่ 1 ที่บ้านดอยยาว ตำบลแช่ช้าง พักครั้งที่ 2 วันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2509 ที่โรงเรียนบ้านสันกำแพง พักครั้งที่ 3 วันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2509 ที่โรงเรียนบ้านหนองโค้ง อำเภอสันกำแพง พักครั้งที่ 4 วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2509 ที่วัดบวกครกหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พักครั้งที่ 5 วันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2509 ที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในเช้าวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2509 ได้เดินทางไปโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2509 ได้จัดงานฉลองสมโภชน์ขึ้นที่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลาประมาณ 09.00 น. เสร็จแล้วเดินทางเข้าสู่ สวนสัตว์เชียงใหม่

นามช้างเผือกพลายภูบาลรัตน์ ผู้ขนานนามคือพระครูจันทสมานคุณ (หลวงปู่หล้า) ภายหลังสำนักพระราชวังได้ตั้งชื่อช้างเผือกนี้ว่า “พระเศวตรัตน กรี นพิศสิริพงคนัทย์ เอกาทัศน์มงคลสุลักษณ์ ศุภนัขเนตราทิโควรรณ พิษณุพันธุ์ อัครคชาธาร อัฎฐกุลสารดามพหัสดิน ปรมินทรมหาราชพาหน สยามประชาชนสวัสดิคุล เดชอดุลยเลิศฟ้า” และได้กำหนดว่าจะเลี้ยงลูกช้างเผือกไว้ที่ สวนสัตว์เชียงใหม่จนถึงอายุได้ 5 ปี จึงจะเคลื่อนย้ายไปกรุงเทพมหานคร แต่บุญบารมีของลูกช้างเผือกช้างนี้มีไม่ถึง จึงได้ล้มป่วยตายด้วยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่ช้างเผือกช้างนี้จะตาย ช้างเผือกมีนิสัยกินแต่ของหวานไม่ยอมทานอาหารที่ทางสวนสัตว์ได้เตรียมไว้ให้ จึงสันนิษฐานว่าเป็นโรคเบาหวาน และได้ล้มลงเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2510 ในขณะที่มีอายุเพียง 2 ปีเศษ ยังความเศร้าโศกกับประชาชนชาวไทยทั้งหลายที่ได้ทราบข่าว ดังนั้นชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ตำบลออนใต้ จึงได้สร้างอนุสรณ์สถานช้างเผือกขึ้นที่นี่ และจัดงานบวงสรวงขึ้น ณ ที่ถวายช้างเผือกพลายภูบาลรัตน์ โดยช้างเผือกเป็นช้างที่ ๒ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

สถานีใบยาสูบแม่ผาแหน หมู่ 6 ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่จัดงาน      ช่วงเดือน มกราคม ของทุกปี

จัดงานบวงสรวงอนุสรณ์สถานช้างเผือกพลายภูบาลรัตน์ ขึ้นทุกปีในช่วงเดือน มกราคม ของทุกปี เพื่อให้เป็นสถานศึกษาหน่วยเรียนรู้ความเป็นมาของอนุชนคนรุ่นหลังต่อไป

  • รั้วราชวัตร               
  • ช่อตุง         
  • หน่อกล้วย     
  • หน่ออ้อย                 
  • บายศรี         
  • ดอกไม้         
  • อาหารคาว-หวาน       
  • ผลไม้           
  • น้ำดื่ม น้ำหวาน

ใส่ความเห็น