Posted in

งานวันกตัญญูหลวงปู่หล้า

งานวันกตัญญูหลวงปู่หล้า

ข้อมูลโดย กองการศึกษา เทศบาลตำบลออนใต้

พระครูจันทสมานคุณ หรือที่เรียกกันว่า หลวงปู่หล้า เกิดวันพฤหัสบดี ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2441 ตรงกับเดือน 11 (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ขึ้น 7 ค่ำ ซึ่งเป็นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) แต่หาดูจากประวัติเมืองเชียงใหม่แล้ว จะอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนเจ้าผู้ครองนคร จากเจ้าผู้ครองนคร องค์ที่ 7 พระเจ้าอินทวิชยานนท์ หรือ “เจ้าหลวงตาขาว” (พ.ศ. 2426 – 2439) เป็นเจ้าผู้ครองนครองค์ที่ 8 คือ เจ้าอินทวโรรสสุริยะวงค์ (พ.ศ.2442 – 2452) หลวงปู่หล้า เกิดที่บ้านปง หมู่ที่ 8 ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากวัดป่าตึง ประมาณ 1 กม. ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือสถานะเดิม หลวงปู่หล้า เป็นบุตรคนสุดท้อง บิดาชื่อ เงิน มารดาชื่อ แก้ว นามสกุล บุญมาคำ กำพร้าแม่ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ เกิดที่บ้านปง หมู่ที่ 8 ตำบลออนใต้ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2441 ได้เข้ามาอาศัยอยู่วัดกับท่านครูบาปินตา ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ได้ศึกษาเล่าเรียนบทสวดมนต์และบทสามเณรสิกขาจนกระทั่งอายุได้ 11 ขวบ ได้บวชเป็นสามเณร

วิทยฐานะ หลวงปู่หล้าได้บวชเรียน จนจบนักธรรมที่วัดเชตุพน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งอายุครบ 20 ปี ก็อุปสมบท ณ อุโบสถกลางน้ำวัดป่าตึง (ปัจจุบันนี้ถูกรื้อไปแล้ว) โดยมีท่านครูบาปินตา เป็นพระอุปัชฌาย์

งานปกครอง หลวงปู่หล้า ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี พ.ศ.2467 และได้รับสมณศักดิ์พัดยศเป็นพระครูจันทสมานคุณ เมื่อปี พ.ศ.2504 ขณะนั้นอายุได้ 63 ปี เคยเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์ ที่วัดสามพระยากรุงเทพฯ ในโอกาสร่วมฉลอง 25 พุทธศตวรรษด้วย ต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าคณะตำบลออนใต้ ปกครองคณะสงฆ์ในตำบลออนใต้ ท่านเป็นนักปฏิบัติธรรม เป็นพระนักเทศน์ และเป็นช่างไม้และช่างปั้นปูน

ด้านการศึกษา หลวงปู่หล้าได้สร้างโรงเรียนประปริยัติธรรมขึ้นภายในวัดป่าตึง โดยมีพระภิกษุ-สามเณร ในตำบลออนใต้ ได้มาศึกษาเล่าเรียนนักธรรม ตรี โท เอก ได้สร้างโรงเรียนประชาบาล และยังได้มอบทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร และเด็กนักเรียนทั่วไป อย่างมิได้ขาด จนกระทั่งท่านได้มรณภาพลง

ด้านศาสนวัตถุ หลวงปู่หล้าได้ก่อสร้างกุฏิ, ศาลา, วิหาร, โรงครัว, อุโบสถ, และเจดีย์ ซึ่งเป็นถาวรวัตถุภายในวัดจนครบหมดและยังได้ไปบูรณะวัดร้างที่ชื่อว่า วัดเชียงแสน ซึ่งอยู่ห่างจากวัดป่าตึงไป 2 กม.

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช พร้อมด้วยพระวรชายา เสด็จเยี่ยมวัดป่าตึง และทรงกราบนมัสการหลวงปู่หล้า อย่างเป็นทางการ

วันที่ 12 มีนาคม 2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงยกช่อฟ้า ตัดลูกนิมิต วัดป่าตึง อย่างเป็นทางการ

วันที่ 22 มีนาคม 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเสด็จเยี่ยมหลวงปู่หล้าเป็นการ ส่วนพระองค์ ณ อุโบสถวัดป่าตึง ในคราวเสด็จทรงงานสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยลาน

วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเยี่ยมสนธนาธรรมสอบถามปัญหาความเดือดร้อนทุกข์สุขของราษฎรในพื้นที่ วัดป่าตึง ในคราวเสด็จทรงงานโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยลาน โครงการพระราชดำริ

  • ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูจันทสมานคุณ
  • ได้รับตั้งแต่งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
  • ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลออนใต้

หลวงปู่หล้า ได้มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2536 อายุ 96 ปี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานน้ำหลวงอาบศพพระราชทานพวงหรีดเคารพศพ และทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน

หลวงปู่หล้า มีคณะศรัทธาศิษยานุศิษย์ยกย่องท่านว่า “หลวงปู่หล้า ตาทิพย์” เล่ากันว่ามีอยู่วันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนัก หลวงปู่หล้าท่านก็คงจะรู้ด้วยญาณของท่านเอง จึงบอกให้พระเณรให้รีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่า ทรุดโทรม และมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิต้นหนึ่ง ปรากฏว่าในขณะนั้นมีฝนตกหนัก ต้นลานก็หักโค่นลงทับกุฏิพังทั้งหลัง ทุกคนปลอดภัย อีกเรื่องหนึ่งก็คือมีคณะศิษย์มากราบนมัสการหลวงปู่หล้า เกินกำหนดที่ได้แจ้งไว้ตอนแรก เพื่อขอรับแจกวัตถุมงคลของขลังจากท่าน แต่ก็ได้รับการแจกจากหลวงปู่ทุกคนเหมือนกับว่าท่านรู้ล่วงหน้า นอกจากนั้นนายอนันต์ วงค์คำปัน อดีตครูใหญ่โรงเรียนวัดป่าตึง ได้เล่าเพิ่มเติมว่า “เช้าวันหนึ่งประมาณตีห้า หลวงปู่ได้ให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหารว่าจะมีแขกมาหาที่วัด ปรากฏว่าพอถึงหกโมงเช้า มีพระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อย อำเภอเมือง เชียงใหม่มาหา” หลังจากนั้นถ้าหากว่าชาวบ้านมีของหายหรือถูกลักขโมยไป มาถามหลวงปู่ ก็จะบอกให้ว่า ไปติดตามทางทิศนั้นทิศนี้ ก็จะได้ของที่หายตามที่หลวงปู่ได้บอกไว้คืน แต่ถ้าหากหลวงปู่ท่านห้ามว่าไม่ต้องไปตามจะไม่ได้คืน ก็จะเป็นจริงอย่างที่ท่านว่า

คณะศรัทธาศิษยานุศิษย์จึงสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ และยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องที่ท่านสามารถบอกล่วงหน้าให้กับลูกศิษย์ได้รับรู้ได้ และปัจจุบันนี้สรีระร่างของหลวงปู่หล้า ก็ยังอยู่ที่วัด ป่าตึง มีคณะศรัทธาศิษยานุศิษย์ไปกราบไหว้เป็นที่พึ่งทางใจอยู่มิได้ขาด

สถานที่           วัดป่าตึง หมู่ 7 ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

1. งานวันกตัญญูหลวงปู่หล้า วันที่ 20 – 22 กันยายน ของทุกปี จำนวน 3 วัน

  • มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน/นักศึกษาทั่วภาคเหนือ
  • มอบข้าวสารอาหารแห้งให้แก่ผู้ยากไร้ที่มาขอรับบริจาค
  • มอบโคกระบือให้แก่เกษตรกรนำไปเลี้ยง
  • จัดเลี้ยงโรงทานให้แก่ผู้ร่วมงาน

2. งานวันมรณภาพ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ของทุกปี

  • อุทิศส่วนกุศลให้หลวงปู่หล้า

ใส่ความเห็น